ชะลูด
ชื่อวิทยาศาสตร์
Alyxia
reinwardtii BL. var.lucida Markgr.
ชือวงศ์
APOCYNACEAE
ชื่ออื่น
-
นูด
(ใต้), ลูด, ชะนูด
ไม้เถา
เปลือกค่อนข้างดำมียางสีขาวขุ่น ใบ ใบเดี่ยวออกรอบข้อๆ ละ 3 ใบ
รูปขอบขนานหรือ
รูปรี กว้าง 2.5-4 ซม. ยาว 3.5-9 ซม. ปลายแหลมหรือมน โคนสอบเป็นครีบ
ใบหนา ดอก สี
ขาวนวล กลิ่นหอม
ออกเป็นช่อตามซอกใบและปลายกิ่ง 4-10 ดอกกลีบดอก 5 กลีบ
โคนเป็น
หลอดยาวประมาณ 0.7 ซม. ปลายแยกเป็นแฉกสั้น เกสรตัวผู้ 5 อัน ผล
รูปรี ยาวประมาณ 1
ซม.
ส่วนที่ใช้ประโยชน์
ราก แก้ลม ขับเสมหะและไข้พิษ
เปลือก ใช้รับประทานเป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงหัวใจ บำรุงครรภ์รักษา แก้ปวดมวนท้อง
เปลือก
ชะลูด
มีสารหอมชื่อ คูมาริน (coumarin) คนไทยในสมัยก่อนจึงนิยมใช้เปลือกชะลูด อบผ้า
ใช้ผสมทำธูป และใช้ในการทำดอกไม้จันทน์
ใบและผล แก้ไข้ แก้มวนท้อง ขับลม ดอกแก้ไข้ แก้สะอึก
ชายผ้าสีดา
ภาพโดย :
คนโบราณ (a_Rsw
)
สถานที่ : ทุ่งปลักเหม็ด (สนามบินหาดใหญ่)
ชื่อวิทยาศาสตร์
Platycerium coronarium (J.G. Koen.ex. Muell) Desv.
วงศ์
POLYPODIACEAE
ชื่อภาษาอังกฤษ
Disk Staghorn, Crown Staghorn
ชื่ออื่น
กระจาด กระปรอกกระจาด(ชลบุรี),
กระปรอก,ชายผ้าสีดา(ใต้),หัวสีดา
ห่อข้าวสีดา
หัวอีโบ(อีสานใต้และตะวันออก)
)
Paku
langsuyar , Semun bidari
(มาเลเซีย)
ชายผ้าสีดา เป็นพืชในตระกูลเฟิร์น ที่เกาะอาศัยอยู่ตามลำต้นไม้ใหญ่ในป่าโปร่ง ที่ระดับ
ความสูงปานกลาง จากระดับน้ำทะเล
พบมากในเขตภาคตะวันออกและภาคใต้ ตามสวนยาง
และป่าดิบชื้น
ลักษณะทั่วไป
: ทั่วทั้งต้นสีเขียวอมเหลือง
ลำต้นเป็นเหง้าเลื้อย ปลายยอดเหง้าปกคลุมด้วย
เกล็ดเป็นแผ่นบางสีน้ำตาล
ชายผ้าสีดาจะเจริญเติบโตออกใบใหม่ตลอดทั้งปี หากได้รับแสง
และความชุ่มชื้นสม่ำเสมอ
ใบกาบ
ตอนบนชูตั้งขึ้นเป็นตะกร้า ใบเป็นแผ่นกว้าง หนา ผิวเป็น
เงามัน ขนที่ผิวใบมองเห็นไม่ชัด แผ่นใบสีเขียวอ่อน
ตอนล่างห่อหุ้มเหง้า และระบบรากแน่น
แผ่โอ้มอ้อม ไปทางด้านหลัง แผ่นใบหนาได้ถึง
1.5 ซ.ม. ส่วนใบด้านบนหยักลึกเป็นแฉกคู่
ไม่เป็นระเบียบ ปลายยอดแฉกมนกลม เส้นใบหลักแตกแขนงเป็นคู่ๆ
และนูนทั้งสองด้านของ
ผิวใบ เส้นใบย่อย จรดโค้งเข้าหากัน
ใบกาบชูตั้งขึ้นเป็นตะกร้าเพื่อดักเศษใบไม้
ลูกไม้และ
เศษอินทรีย์วัตถุ สำหรับเก็บสะสมไว้ใช้เป็นอาหารเลี้ยงต้น
ใบชายผ้าโคนใบออกมาเป็นก้าน
ผอม แล้วแตกเป็นกิ่งสาขาเป็นคู่ๆ ปล่อยทิ้งตัวห้อยย้อยลงมาเป็นริ้วที่อาจยาวได้ถึง 3
ม. มอง
ดูเหมือนสายม่านหรือตาข่าย
ซึ่งเป็นลักษณะเด่นที่สังเกตุได้ชัด การแตกกิ่งช่วงบนแตกเป็นคู่
สาขา มักยาวพอๆ กัน
แต่ช่วงปลายอาจยาวไม่เท่ากัน ขอบใบเรียบเส้นใบแตกกิ่งสาขาเป็นคู่
ปูดนูน แต่เส้นใบย่อยสังเกตุเห็นได้ไม่ชัด
อับสปอร์
เกิดเป็นพืดในอวัยวะคล้ายถ้วย
งอก
จากโคนของใบชายผ้า
เมื่อสปอร์แก่เต็มที่
จะปล่อยสปอร์ร่วงไปพร้อมๆกันในคราวเดียวทั้ง
หมด ......(ข้อมูลจาก
fernsiam.com)
ส่วนที่ใช้ประโยชน์
เนื่องจาก ชายผ้าสีดาเป็นเฟิร์นที่มีรูปทรงแปลก สวยงาม
ปัจจุบันจึงได้
นำมาเป็นพืชตกแต่งสวน และ มีการเพาะขายในเชิงพาณิชย์
หมายเหตุ
:
1.
คนปักษ์ใต้สมัยก่อนเชื่อกันว่า
ชายผ้าสีดา
เป็นพืชชั้นสูงที่เกี่ยวข้องกับนางสีดา
พระชายา
ของพระราม หากนำมาปลูก จะต้องดูแลไม่ให้ริ้วใบชายผ้ายาวยืดลงแตะถึงพื้นดิน
ซึ่งถือเป็น
การไม่เคารพ บ้านที่ปลูกชายผ้าสีดา แต่ไม่ดูแลดังกล่าว
จะประสบแต่เรื่องร้อนใจ มีแต่ความ
ทุกข์
2.
ชายผ้าสีดา
พืชในตระกูลเฟิร์น นี้ มีกลุ่มนักเพาะพันธุ์ไม้ประดับรุ่นใหม่
เรียกชื่อผิดเป็น
กระเช้าสีดา เพื่อความถูกต้อง กรุณาเปรียบเทียบความแตกต่าง
ในหัวข้อ กระเช้าสีดา
|