รวมพันธุ์ไม้พื้นๆข้างขนำ
(หมวดอักษร
- ธ, ท )
/
ธรณีสาร
/ ทองพันชั่ง /
ท้าวยายหม่อม /
ทำมัง /
ทิ้งถ่อน /
/
ทุ้งฟ้า / โทะ
/
ธรณีสาร
ภาพ#
1 โดย :
คนโบราณ (a_Rsw
)
สถานที่ :
ทุ่งปลักเหม็ด
(ซอยทวดพรหม สนามบินหาดใหญ่)
ภาพ
# 2, ภาพ #3 จาก
บล็อกแก็งค์ คุณหนูหล่อ
bloggang.com/nulaw-08
ชื่อวิทยาศาสตร์
Phyllanthus
pulcher
Wallich ex Muell. Arg.
ชื่อวงศ์
EUPHORBIACEAE
ชื่อภาษาอังกฤษ
Tropical
leaf-flower
ชื่ออื่น
เสนียด, ธรณีสาร(กลาง), กระทืบยอบ(ชุมพร), ก้างปลาดิน, ดอกใต้ใบ
(นครศรีธรรมราช), คดทราย (สงขลา), ก้างปลาแดง, ครีบยอด
(สุราษฎร์ธานี),
ก้างปลา(นราธิวาส), มะขามป้อมดิน(เชียงใหม่)
ธรณีสาร
เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง
1-1.5 เมตร เปลือกต้นเรียบ
สีน้ำตาล มีรอย
แผลใบชัดเจน ใบ เป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับ
ประมาณ 15-30 คู่ รูปรีแกมขอบ
ขนาน
กว้าง 0.8-1.3 ซม. ยาว 1.5-2.5 ซม. โคนใบเบี้ยวปลายใบมน
ขอบใบเรียบ
หลังใบและท้องใบเรียบ สีเขียว ดอก ดอกแยกเพศอยู่ต้นเดียวกันดอกเพศผู้ออก
เป็นกระจุก ตามซอกใบ กลีบดอกมี 4 กลีบ
ดอกเพศเมียออกตามซอกใบในส่วน
ของก้านใบ ดอกห้อยลง กลีบดอกมี 6 กลีบโคนติดกันสีม่วงแดงปลายแหลมปลาย
เป็นสีเขียวขอบจักเป็นฝอย ผล รูปทรงกลม สีน้ำตาลอ่อน
การขยายพันธุ์
ใช้วิธีแยกต้น หรือเพาะเมล็ด
ส่วนที่ใช้เป็นประโยชน์
:
ใบแห้ง บดเป็นผงแทรกพิมเสน ใช้กวาดคอเด็กเพื่อลดไข้
แก้พิษตานทรางของ
เด็ก และรักษาแผลในปาก ภายนอกใช้พอกฝี บรรเทาอาการบวม
( เชื่อกันว่า ธรณีสาร เป็นไม้มงคลที่ช่วย ป้องกันเสนียดจัญไร
คนไทยสมัยก่อน
นิยม เอาใบและก้าน มาใช้ประพรมน้ำมนตร์ ปัดรังควาญ)
หมายเหตุ :
แหล่งข้อมูลทางพฤกษศาสตร์
Flora of China
แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ของ
ธรณีสาร
-
นจ.
ทองพันชั่ง
ภาพโดย :
คนโบราณ (a_Rsw
)
สถานที่ : ทุ่งปลักเหม็ด
(ซอยทวดพรหม สนามบินหาดใหญ่)
ชื่อวิทยาศาสตร์
Rhinacanthus nasutus
(Linn.) Kurz
ชื่อวงศ์
ACANTHACEAE
ชื่อภาษาอังกฤษ
White crane flower,
Dainty Spurs
ชื่ออื่น ทองคันชั่ง , หักปัก
(ใต้ -สงขลา)
ทองพันชั่ง
เป็นพันธุ์ไม้พุ่มสูงประมาณ1-1.50
เมตร แตกกิ่งก้านมาก กิ่งอ่อนเป็น
สี่เหลี่ยม
ใบเดี่ยวรูปหอกหรือยาวรี ปลายแหลม โคนสอบแคบ โตเต็มที่ใบยาว ประ
มาณ 13 ซม. กว้างประมาณ 6 ซม. ดอกสีขาว ออกเป็นช่อตามซอกใบ ดอกเล็ก
กลีบดอก โคนเชื่อมกันเป็นหลอดยาวประมาณ
1 ซม. เหนือปากหลอด มีจุดประสี
แดงปลายแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนบนเล็กเรียวโค้งขึ้น ปลายแยกเป็น 2 แฉก เกสรตัว
ผู้
2 อัน
ก้านเกสรสั้นติดอยู่ที่ปากหลอด
ส่วนที่ใช้ประโยชน์
ใบ ใช้รักษาโรคกลากเกลื้อน(ใบสด 5-8
ใบ ตำให้ละเอียด
เติมเหล้าโรงเล็กน้อย
ทาบริเวณที่เป็นเกลื้อนและกลาก
หรือใช้ใบสด ตำให้ละเอียด ผสมน้ำมันก๊าด
ทา
บริเวณที่เป็นกลาก)
หมายเหตุ :
แหล่งข้อมูลทางพฤกษศาสตร์
Zipcodezoo.com
แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ของ
ทองพันชั่ง
-
นจ.
|
ท้าวยายม่อม
ภาพโดย :
คนโบราณ (a_Rsw
)
สถานที่ : ทุ่งปลักเหม็ด
(ซอยทวดพรหม สนามบินหาดใหญ่)
ชื่อวิทยาศาสตร์
Clerodendrum petasites
S.Moore
ชื่อวงศ์
VERBENACEAE
ชื่ออื่น
จรดพระธรณี, พญารากเดียว, เท้ายายหม่อม, ไม้เท้ายายม่อม,
ไม้เท้าฤษี,
ประทุมราชา
ท้าวยายม่อม เป็นไม้พุ่มขนาดย่อมมีลำต้นตั้งตรง
ลำต้นสูงประมาณ
1-2
เมตรดอก
ออกเป็นคู่ๆ สลับกัน
ตามข้อของลำต้น
จนถึงส่วนยอด
เป็นช่อตั้งตรง
ดอกสีขาว
ขนาดเล็ก
กลีบดอกโคนเชื่อมกันเป็นหลอดยาวปลายแยกออกเป็นห้ากลีบ เมื่อบาน
เกสรตัวผู้สีม่วง 4 อันยื่นพ้นกลีบดอก
ส่วนที่ใช้ประโยชน์
หัว และราก หัวในดิน
ใช้ทำเป็นแป้งเรียกว่า แป้งท้าวยายม่อม
นำแป้งมาละลาย
น้ำ น้ำตาลกรวด
ตั้งไฟกวนให้สุกเป็นขนมทำให้คนไข้ ที่เบื่ออาหารและอ่อนเพลีย
กินบำรุงกำลัง
รากสด มีรสขม
นำมาต้มใช้น้ำกินเป็นยาแก้พิษได้ทุกชนิด แก้ไข้
และขับเสมหะ เป็นต้น
หมายเหตุ :
แหล่งข้อมูลทางพฤกษศาสตร์
ฐานข้อมูลพรรณไม้องค์การสวนพฤกษศาสตร์
แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ของ
ท้าวยายม่อม
-
นจ.
)
|
ทำมัง
ภาพโดย :
คนโบราณ (a_Rsw
)
สถานที่ : ทุ่งปลักเหม็ด
(ซอยทวดพรหม สนามบินหาดใหญ่)
ชื่อวิทยาศาสตร์
Litsea petiolata Hook.
F. ชื่อวงศ์
LAURACEAE
ชื่ออื่น
ชะมัง, ธัมมัง, ใบแมงดา
ทำมัง
เป็นไม้ป่ายืนต้นขนาดกลาง แผ่กิ่งก้านออกเป็นทรงพุ่ม
สูงประมาณ 20-30
เมตร
ไม่ผลัดใบ
เจริญเติบโตช้า
เปลือกลำต้นสีน้ำตาลจนถึงเทา
ใบ เดี่ยวรูปไข่
ยาวรี
ปลายใบทู่จนถึงแหลม
กว้าง
3-9 ซม.ยาว
6-20
ซม.
ก้านใบเรียวยาว
1-2.5
ซม.
แผ่นใบบางเป็นมัน
มีเส้นแขนงใบ
4-12
คู่ มองเห็นชัดเจนจากด้านท้องใบบน
ใบมีต่อมน้ำมัน และมีกลิ่นฉุนเหมือนกลิ่นแมงดา ใบแก่
จะมีกลิ่นแรงมากกว่าใบ
อ่อน
ดอก ออกเป็นช่อมีขนาดเล็กมาก ออกที่ซอกใบปลายกิ่ง
ผล มีรูปไข่ยาว
1
ซม.
เมื่อผลแก่มีสีน้ำตาลแดง ภายในผลมีเมล็ด เพียงเมล็ดเดียว
ส่วนที่ใช้ประโยชน์
ยอดอ่อน ใบเพสลาด
กินเป็นผักจิ้มน้ำพริก หรือ ใส่ในแกงเผ็ด
ใบแก่
นำมาย่าง
ไฟ แล้วตำผสมลงในน้ำพริก จะได้น้ำพริกกลิ่นแมงดา
ไม้ทำมัง
นำมาทำเป็นสาก
ตำน้ำพริกจะช่วยให้น้ำพริกมีกลิ่นแมงดาอ่อนๆ และนอกจากนั้น
คนไทยถิ่นใต้ใน
สมัยก่อน
นิยมปลูกทำมัง ไว้ตามบ้านเรือน เพราะถือว่าเป็นไม้มงคล
(หมายเหตุ : แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ของ
ทำมัง
-
นจ.
)
|
ทิ้งถ่อน
ภาพโดย :
คนโบราณ (a_Rsw
)
สถานที่ : ทุ่งปลักเหม็ด |
ลักษณะของลำต้นทิ้งถ่อน
|
ชื่อวิทยาศาสตร์
Albizia procera ( Roxb.) Benth
ชื่อวงศ์
LAGUMINOSAE
MIMOSOIDEAE
ชื่อภาษาอังกฤษ White
siris, Sit.
ชื่ออื่น
พระยาฉัตรทัน, ส่วน(เชียงใหม่,เลย),
เชอะบ้อง
(กาจนบุรี),
ถ่อน, ทิ้งถ่อน
(กลาง),
ทิ้งถอน (ใต้)
ทิ้งถ่อน
เป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ15-20
เมตร พุ่มเรือนยอดเป็นสีแดงหรือน้ำตาล
อมแดง เปลือกสีขาวแกมเขียว
มีรอยด่างสีน้ำตาล
กระจัดกระจายตามลำต้นทั่วไป
บนแกนช่อใบแขนงด้านข้างแต่ละช่อมีใบย่อยก้านใบย่อยสั้นมาก ใบย่อยเบี้ยวเป็น
รูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน
เป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้น
ดอกเล็กสีขาว
ไม่มี
ก้านดอก
รูปทรงกลมเป็นช่อก้าน
ช่อดอกแต่ละช่อแตกแขนงมาจากช่อใหญ่ หรือ
รวมกลุ่มกันตามง่ามใบปลายกิ่ง
กลีบรองและกลีบดอกติดกันคล้ายแตร
ผล เป็น
ฝักแบน สีน้ำตาล กว้างประมาณ 2
ซม.
ยาวประมาณ 12 ซม.
ฝักแก่ไม่แตก
เมล็ด
รูปไข่กลับแกมรูปรี มี
6 -12 เมล็ด
ออกดอกเดือนพฤษภาคม -กันยายน
ส่วนที่ใช้ประโยชน์
เนื้อไม้ ใช้ก่อสร้าง
ทำเสา
เปลือก เปลือกนำมาต้ม มีรสร้อน เป็นยาอายุวัฒนะ แก้หืดไอ
แก้ท้องร่วงเจริญ
-
อาหาร แก้โรคผิวหนัง
แก้เลือดลมในกองธาตุ ขับลม
ผล เป็นยาขับลม
แก้ท้องอืด
บำรุงธาตุ
ราก แก้เจ็บเอว แก้เจ็บหลัง แก้เส้นตึง
แก่น
แก้ริดสีดวงทวารหนัก บำรุงกำลัง แก้ท้องอืด แก้เจ็บเอว
ใบ เอาไปเผาไฟ มาผสมกับน้ำใบยาสูบและน้ำปูน
ทำเป็นยาฆ่าแมลง
ส่วนที่ใช้เป็นอาหาร
ยอดอ่อน ใบอ่อน และดอกอ่อน นำไปลวก
ต้มรับประทานเป็นผักกับน้ำพริก
(หมายเหตุ : แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ของ
ทิ้งถ่อน
-
นจ.
)
|
ทุ้งฟ้า
ภาพโดย :
คนโบราณ (a_Rsw
)
สถานที่ : ทุ่งปลักเหม็ด
(ซอยทวดพรหม สนามบินหาดใหญ่)
ชื่อวิทยาศาสตร์
Alstonia macrohpylla
Wall.
ชื่อวงศ์ APOCYNACEAE
ชื่ออื่น
กะทุ้งฟ้า ,
กระทุ้งฟ้าไห้ , พวมพร้าว
ทุ้งฟ้า เป็นไม้ยืนต้น สูงประมาณ 15 -25 เมตร
ลักษณะใบรูปไข่แกมรูปหอกกลับ
เป็นใบเดี่ยวยาวรีประมาณ 20
ซม.กว้างประมาณ 7 ซม. ใบมียางสีขาว
ลักษณะใบ
เหมือนกับใบหูกวางแต่เล็กกว่า ลักษณะรูปทรงของต้นทุ้งฟ้า เป็นชั้นๆ
เรือนยอด
ค่อนข้างโปร่ง
ดอกสีขาวออกเป็นช่อตามง่ามใบตอนปลายกิ่ง
ผล เป็นฝักเมื่อแก่
แตกบิดเป็นเกลียว
เมล็ดเล็กมีพู่สีขาวปลิวได้
ส่วนมี่ใช้ประโยชน์
ราก ใช้ผสมยา รับประทานบำรุงกำลัง
, บำรุงกำหนัด
เปลือก ใช้เป็นยาแก้ไข้
ยา
บำรุง รักษาโรคมาเลเรีย แก้บิด ขับระดู
ใบ
ตำผสมกับน้ำมันมะพร้าวทำให้ร้อน
ใช้เป็นยาพอกแก้ข้อต่อเคลื่อน
ไม้ ใช้ทำกระดานพื้น ฝา เครื่องเรือนและเครื่องใช้
เบา ลักษณะเนื้อไม้คล้ายไม้ตีนเป็ด
(
หมายเหตุ : แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ของ
ทุ้งฟ้า
-
นจ.
)
|
โทะ
ภาพ#
1 โดย :
คนโบราณ (a_Rsw
)
สถานที่ :
ทุ่งปลักเหม็ด
(ซอยทวดพรหม สนามบินหาดใหญ่)
ภาพ#
2 จาก
Internet
ชื่อวิทยาศาสตร์
Rhodmyrtus tomentosa
ชื่อวงศ์
MYRTACEAE
ชื่อภาษาอังกฤษ
Downy
Myrtle, Rose Myrtle
ชื่ออื่น
กระทุ, กะโท,
กาทุ, ทุ, โทะ (ภาคใต้),
กามูติง (ปัตตานี), พรวด,
พรวดกินลูก
(ตะวันออกเฉียงใต้),
โทะ เป็นไม้ยืนต้น สูง
1-2
เมตร กิ่งอ่อนและยอดอ่อนมีขนสีขาว ใบ
ใบเดี่ยวเรียง
ตรงข้ามกัน
แผ่นใบรูปรีถึงรูปขอบขนาน ยาว 5-10 ซม. กว้าง 3-5 ซม.
ด้านบน
เกลี้ยง
ด้านล่างมีขนสีขาวเป็นปุย ปลายใบทู่
โคนใบสอบ
มีเส้นใบ 3
เส้น จาก
โคนจรดปลายใบ
ก้านใบยาวประมาณ 5 มม.
ดอกสีขาว
เส้นผ่าศูนย์กลาง 3-4
ซม. ออก 1-2 ดอกตามง่ามใบ ออกดอกทั้งปี
ผล ผลแก่สีม่วงคล้ำถึงดำรูปกลม
เส้นผ่าศูนย์กลาง 1-1.5 ซม. มีขนสีขาวสั้นๆ มีเมล็ดมากกินได้
ลักษณะทางนิเวศวิทยา
โทะ
ขึ้นบริเวณชายป่าที่ลุ่มและตามขอบป่าพรุ
มีแหล่งกำเนิดแพร่กระจายทาง
ภูมิศาสตร์
อยู่ในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
ในอินเดีย ศรีลังกา และทางตอน
ใต้ของจีน
(หมายเหตุ : แหล่งข้อมูลทางพฤกษศาสตร์
AgroForestryTree Database)
|
|
|
หน้าแรก
หน้าฐานข้อมูลพันธุ์ไม้ หน้าถัดไป
ปรับแต่งข้อความเมื่อ
04/01/2555
Copyright ©
2001-2012 : The hut of Plugmet, All rights Reserved.
Developed by
คนโบราณ ,
e-mail :
plugmet54@gmail.com |
|
|