คางคก
ภาพโดย :
คนโบราณ (A_Rsw
)
สถานที่ : ทุ่งปลักเหม็ด (สนามบินหาดใหญ่)
ภาพโดย :
คนโบราณ (A_Rsw
)
สถานที่ :
บ้านหนำคอก ท่าโพธิ์ สะเดา สงขลา
ชื่อวิทยาศาสตร์
Cynometra cauliflora
ชื่อวงศ์
LEGUMINOSAE /
FABACEAE ( Subfamily
Faboideae
/ Papilionaceae )
ชื่อภาษาอังกฤษ
Nam nam
ชื่ออื่น -
ส้มคางคก, ส้มขามคางคก,
คางคก(ใต้), กาเตาะปูฆู
(มลายู)
หน้าหนำ
( สะเดา,สงขลา -
คำว่า หน้าหนำ ของคนสะเดา นี้
น่าจะเป็นคำที่เพี้ยน
มาจาก nam
nam ของคนมาเลย์)
คางคก พันธุ์ไม้ประจำถิ่นดั่งเดิมของมาเลเซียภาคเหนือ เป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ
5 - 8 เมตร
เจริญเติบโตได้ดีบริเวณชายน้ำ เปลือกต้นสีน้ำตาลเทาถึงน้ำตาลคล้ำ ใบสีเขียวอ่อนรูปรีปลาย
แหลม โคนสอบ ออกเรียงสลับ
ใบอ่อนจะห้อยเป็นพวง คล้ายใบต้นมังค่า
แต่มีขนาดเล็กกว่า
ดอก
ออกตามลำต้นรวมกันเป็นกระจุกก้านดอกมีเกล็ดสีน้ำตาลหุ้มอยู่ ดอกมีสีเหลืองขาวแซม
ม่วงเล็กน้อย ผล
มีรูปร่างแบนคล้ายมะม่วง
ผิวสีเทาปนเขียว
มีรอยขรุขระไม่สวยงาม (
ชาว
ใต้ จึงเรียกผลว่า
ลูกคางคก)
ผลอ่อนมีสีน้ำตาลแกมเขียว เมื่อเจริญขึ้นมีสีเหลือง ผลดิบมีรส
คล้ายมะม่วงดิบ เมื่อผ่ากลางจะมีลักษณะเมล็ดคล้ายมะม่วง
ผลสุกขนาดใหญ่ ประมาณ
200
กรัมมีสีเหลืองและเมล็ดสีน้ำตาล เมื่อออกผลแล้ว นานประมาณ
2-3 เดือน จึงสุก
เนื่องจากชื่อที่ไม่ไพเราะและรูปลักษณ์ของผลที่ไม่สวยงาม
จึงทำให้คนปักษ์ใต้รุ่นปัจจุบันไม่
นิยมปลูกพันธุ์ไม้ชนิดนี้ จนกลายเป็นพันธุ์ไม้หายาก อย่างไรก็ตาม
ต้นคางคกยังพอจะพบเห็น
ได้ในเขต 3
จังหวัดชายแดน
ในเขตจังหวัดสงขลาจะพบได้ในแถบอำเภอจะนะ,
เทพา,นาทวี
และอำเภอสะเดา
ในเขตภาคกลาง ที่อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม มีพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่งซึ่งลักษณะจะใกล้
เคียงกับต้นคางคกมาก
ต่างตรงที่ผลจะมีผิวที่ขรุขระน้อยกว่าผิวของผลคางคก
พันธุ์ไม้ชนิดนี้
เรียกว่า "อัมพวา"
ส่วนที่ใช้ประโยชน์
ผลสุก
มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว รับประทานได้
ใบ
ตากแห้งใช้ต้ม เป็นยารักษาโรคเบาหวาน
หมายเหตุ
1.
แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ของต้นคางคก
-
นายเจริญ
พรหมเขียว ข้าราชการบำนาญ
กรมราชทัณฑ์ บ้านหนำคอก
ต.ท่าโพธิ์
อ.สะเดา
จ.สงขลา
2.
ดูภาพและข้อมูลต้นคางคก เพิ่มเติมจากเวบไซท์
/ TopTropicals.com
/
Blog-ชบาตานี
/
คุระ-เปรียะ
ภาพโดย :
คนโบราณ (A_Rsw
)
สถานที่ : ทุ่งปลักเหม็ด (สนามบินหาดใหญ่)
ชื่อวิทยาศาสตร์
Croton caudatus
Geiseler.
วงศ์
EUPHORBIACEAE
ชื่อภาษาอังกฤษ
Caudated croton
ชื่ออื่น กุระ-เปรี๊ยะ (สงขลา), กระดอหดใบขน ( ตะวันออกเฉียงใต้)
คุระเปรี๊ยะ
เป็นพันธุ์ไม้พุ่ม/ไม้เลื้อยที่พึ่งพิงต้นไม้อื่นไปทุกทิศทาง
ยาวไปไกลประมาณ 5
เมตร ก้านใบ, ใบอ่อนและกิ่งอ่อนมีขนอ่อนสีน้ำตาลอมเหลือง ใบ
เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับรูปไข่
ถึงรูปกลมกว้าง
2-4.5
ซม. ยาว 3.5 - 9 ซม.
ขอบใบเป็นหยัก ทั้งหน้าใบหลังใบมีขนอ่อนก้าน
ใบยาวประมาณ 1-3 ซม.
ดอก ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง
ลักษณะทางนิเวศน์
คุระเปรี๊ยะ
จะพบเห็นได้ทั่วไปตามป่าพรุ,ริมสายน้ำลำคลอง,ตามป่าดิบชื้นตั้งแต่ระดับน้ำทะเล
ไปจนถึงระดับ
200-700
เมตร
ส่วนที่ใช้ประโยชน์
ราก ใช้ต้มเป็นยาระบาย
แก้อาการท้องผูก
เนื้อไม้ตากแห้ง
ต้มเป็นยาธาตุ
ช่วยให้ระบบ
ย่อยอาหารเป็นปกติ ใบ
ตำเป็นยาพอกภายนอก ลดไข้ แก้ปวดข้อ และปวดเมื่อยตามร่างกาย
(
แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ของ
คุระเปรี๊ยะ
-
นจ. )
โคลงเคลง
ภาพ#1 โดย :
คนโบราณ (A_Rsw
)
สถานที่ : ทุ่งปลักเหม็ด (สนามบินหาดใหญ่)
ภาพ# 2, # 3 มาจาก
internet (
เวบ Magnolia Thailand
)
ชื่อวิทยาศาสตร์
Melastoma malabathricum
Linn.
ชื่อวงศ์ MELASTOMATACEAE
ชื่อภาษาอังกฤษ
Singapore rhododendron ,
Blue Tongue
ชื่ออื่น เบร้, เหมฺรฺ
(สงขลา), มังเร (นครศรีธรรมราช),
มังเคร(ชุมพร), ก้นครก, เอนอ้า (อีสาน),
โคลงเคลง (กลาง)
โคลงเคลงเป็นพันธุ์ไม้พุ่ม สูงตั้งแต่ 1.5-2 เมตร
ใบ เดี่ยว เรียงตรงข้ามเป็นคู่ สลับแผ่นใบรูป
ขอบขนานแกมรูปรี ยาว 7-10 ซม.กว้าง
3-4 ซม. ผิวใบมีเกล็ดเล็กแหลมสั้นๆ
ปลายใบแหลม
ถึงเรียวแหลม
โคนใบแหลม มีเส้นใบ 3 เส้นจากโคนใบจรดปลายใบ ก้านใบ ยาว 1 - 2 ซม.
ดอกสีชมพูแกมม่วงสด
เส้นผ่าศูนย์กลาง 5
-7 ซม. ถ้วยรองดอกมีเกล็ดเล็กสีขาว
ผล
สีน้ำ
ตาลรูปถ้วยปากผาย กว้าง
1.5
ซม. ตรงปากถ้วยสีน้ำตาลแดง ในผลมีเมล็ดจำนวนมาก เมล็ด
เล็กเนื้อสีดำ
โคลงเคลงเป็นพันธุ์ไม้ที่ขึ้นง่าย
มักมีกระจายพันธุ์อยู่ตามชายป่าหรือตามริมห้วย
ที่มีแสงแดดส่องถึง
ส่วนที่ใช้ประโยชน์
ราก ใช้ปรุงเป็นยาดับพิษไข้ แก้อาการร้อนใน กระหายน้ำ
ปรุงเป็นยาแก้ปวด แก้มะเร็ง
ดอก เป็นยาระงับประสาทและใช้ห้ามเลีอดในคนที่เป็นริดสีดวงทวาร
ผล รสหวานฝาด
รับประทานได้
ใบ ใช้รูดปลาไหล ขจัดเมือกได้ดี
โคลงเคลงดอกขาว
ภาพ โดย :
คนโบราณ (A_Rsw
)
สถานที่ : ทุ่งปลักเหม็ด (สนามบินหาดใหญ่)
ชื่อวิทยาศาสตร์
Melastoma malabathricum
var. alba
ชื่อวงศ์ MELASTOMATACEAE
ชื่ออื่น เบร้ ดอกขาว, เหมฺรฺ ดอกขาว
(สงขลา), มังเร ดอกขาว (นครศรีธรรมราช),
มังเคร ดอกขาว(ชุมพร), ก้นครกดอกขาว, เอนอ้าดอกขาว
(อีสาน)
โคลงเคลงดอกขาว (กลาง)
โคลงเคลงดอกขาว
มีลักษณะเหมือน โคลงเคลงดอกสีม่วง
ต่างตรงใบของโคลงเคลงดอก
ขาว จะบางและยาวเรียวกว่าโคลงเคลงดอกสีม่วง
จุดที่แตกต่างอีกประการคือ
ผล ของโคลง
เคลงดอกขาว
จะมีสีเขียวอ่อน ตรงส่วนยอดของผลที่มีลักษณะเป็นปากถ้วย จะมีเสีเขียวเข้ม
ต่างจาก
โคลงเคลงดอกสีม่วง
ที่มีสีน้ำตาลแดง
ส่วนที่ใช้ประโยชน์
ราก ใช้ปรุงเป็นยาดับพิษไข้ แก้อาการร้อนใน กระหายน้ำ
ปรุงเป็นยาแก้ปวด แก้มะเร็ง
ดอก เป็นยาระงับประสาทและใช้ห้ามเลีอดในคนที่เป็นโรคริดสีดวงทวาร
ผล รสหวานฝาด
รับประทานได้
ใบ ใช้รูดปลาไหล ขจัดเมือกได้ดี
( โคลงเคลงดอกขาว
เป็นโคลงเคลง ที่มีสรรพคุณทางยาดีกว่า โคลงเคลงดอกสีม่วง
)
(
แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ของ
โคลงเคลง
-
นจ.
)
หมายเหตุ:
โคลงเคลง ในประเทศไทย
จะมีอีกชนิดหนึ่งที่ต้นสูงกว่า ดอก,ผลจะใหญ่กว่า แต่สีของเมล็ด
สุก จะซีดกว่า โคลงเคลง ชนิดนี้ เรียกว่า โคลงเคลงช้าง, มังเครช้าง,
มังเรช้าง หรือ เบร้ช้าง
Melastoma sanguineum
Sims (ชื่อพ้อง
M.polyanthum BL.
)
Melastoma villosum Lodd.
คล้าย
ภาพโดย :
คนโบราณ (A_Rsw
)
สถานที่ : ทุ่งปลักเหม็ด
(ซอยทวดพรหม สนามบินหาดใหญ่)
ชื่อวิทยาศาสตร์
Salix tetrasperma Roxb.
ชื่อวงศ์
SALICACEAE
ชื่ออังกฤษ
Indian Willow
ชื่ออื่น
คล้าย,
ไคร้( ใต้ ),
ไคร้ใหญ่(ยะลา),
ตะหนุ่น, สนุ่น
(ภาคกลาง), ไคร้นุ่น,
ไคร้บก, ตะไคร้บก(เหนือ)
ไม้ยืนต้นทรงสูงชะลูด
สูงได้ถึง 15 เมตร กิ่งอ่อนมีขนสีขาว หูใบร่วงง่าย รูปไข่แกมรูปโล่
ยาว
ได้ถึง 4 มม.ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปใบหอก กว้าง 2-4 ซม. ยาว 8-12 (-20)
ซม. ผิวใบด้านบน
เกลี้ยงหรือมีขนประปราย ท้องใบเกลี้ยงถึงมีขนสีขาวหนาแน่น
ขอบใบหยักซี่ฟัน ก้านใบสีแดง
ดอกช่อแบบหางกระรอก ห้อยลง
ออกตามซอกใบ
แยกเพศอยู่คนละต้น ยาว 5-15 ซม. ช่อ
ดอกตัวผู้มีขนสีขาว
ช่อดอกตัวเมียดอกย่อยจำนวนมากเรียงตัวแน่น ใบประดับมีขน มีต่อมน้ำ
หวาน 1
ต่อม เกสรตัวผู้ 4-10 อัน ผลแห้งจะแตกเป็น 2 ฝา
ก้านยาว 2 มม.ผิวเกลี้ยง ยาว
3-4
มม.
การกระจายพันธุ์
คล้ายเป็นพันธุ์ไม้ที่ชอบขึ้นอยู่ตามที่ลุ่ม
หรือริมธารน้ำ ที่ระดับความสูง 200-1200 เมตร
ส่วนที่ใช้ประโยชน์
สรรพคุณทางยา
เปลือก -
ตำรายาไทยใช้เป็นยาแก้ไข้ บำรุงหัวใจ
(ในเปลือกต้น
พบสาร
salicin มีฤทธิ์ลดไข้แก้ปวด เช่นเดียวกับแอสไพริน )
น้ำคั้นจากใบสด
ใช้ทาแก้พิษงูสวัด
ราก ช่วยดับพิษร้อน
และแก้ตับพิการ
ประโยชน์อื่นๆ
คล้าย เป็นพันธุ์ไม้ที่ชอบขึ้นริมน้ำ/ริมคลอง สามารถนำมาปลูกเสริมตามคันดินหรือสันเขื่อน
เพื่อช่วยป้องกันดินพังได้
( แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับสรรพคุณทางยา
จาก
เวบไซท์ องค์การเภสัชกรรม ) |