มะม่วงหิมพานต์
ชื่อวิทยาศาสตร์
Anacardium occidentale
L.
ชื่อวงศ์
ANACARDIACEAE
ชื่อภาษาอังกฤษ
Cashew Nut
ชื่ออื่น
หัวครก, ยาร่วง (สงขลา-พัทลุง),
กาหยู (ภูเก็ต-พังงา), กาหยี
(ระนอง),
Caju (บราซิล)
มะม่วงหิมพานต์
เป็นไม้ยืนต้น
ไม่ผลัดใบ
ลำต้น
สูง 10-12 เมตร ต้นเตี้ย แผ่กิ่งก้าน
ไม่สม่ำเสมอ ใบ
จัดเรียงเป็นแบบเกลียวรูปโค้งจนถึงรูปไข่ ผิวใบมันลื่น
ขอบใบเรียบยาว
4-22 ซม.กว้าง 2-15
ซม. ดอกเป็นช่อ
ยาวถึง 26 ซม. ดอกอ่อนสีเขียวซีด
ดอกบานสี
ม่วงแดง มี
5 กลีบ ปลายแหลมเรียวยาว 7-15 มม.
ผล เป็นผลวิสามัญ(Accessory
fruit)
รูปไข่ หรือรูปลูกแพร์ซึ่งเติบโตจากฐานดอกขึ้นมา
เมื่อสุกจะมีสีเหลือง หรือส้มแดง ยาว
ประมาณ 5-11 ซม.
ผลแท้ของมะม่วงหิมพานต์นั้นเป็นผลเมล็ดเดียวรูปไต
งอกออกจาก
ปลายของผลเทียม
(ซึ่งเดิมคือ ก้านดอก)
ภายในผลแท้เป็นเมล็ดเดี่ยวห่อหุ้มด้วยเปลือก
สองชั้น ประกอบด้วยยางฟีโนลิก(Caustic phenolic
resin), น้ำมัน Urushiol
ซึ่งมีพิษที่
ระคายเคืองต่อผิวหนังอย่างรุนแรง
การกระจายพันธุ์
มะม่วงหิมพานต์
เป็นพืชพื้นเมืองดั้งเดิม
ในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ
บราซิล
ที่ปัจจุบันได้แพร่กระจายไปทั่วในภูมิภาคเขตร้อน
โดยจะเติบโตได้ทั้งในสภาพ
อากาศที่ชื้น และอบอุ่น ทั้งในเอเชีย และอเมริกาใต้
ในประเทศไทย
มะม่วงหิมพานต์
สามารถเจริญเติบโตได้ดีในภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ทั้งนี้เนื่องจากเป็นพืชที่
ทนแล้ง ปลูกง่าย เจริญเติบโตเร็ว ดูแลง่าย
ขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิดที่ระบายน้ำดี หน้าดิน
ลึกไม่เป็นดินดานไม่เป็นดินด่างจัด หรือกรดจัด
การปลูกมะม่วงหิมพานต์นอกจากเป็นการ
เพิ่มรายได้แก่เกษตรกรแล้วยังเป็นการเพิ่มการปลูกป่า
ทำให้สภาพภูมิอากาศและสิ่งแวด
ล้อมดีขึ้น
ส่วนที่ใช้ประโยชน์
ผลเทียมของมะม่วงหิมพานต์
จะมีเนื้อนิ่มฉ่ำน้ำ มีรสเปรี้ยวอมฝาดใช้กินได้ทั้งดิบและสุก
คนไทยถิ่นใต้ นิยมนำผลเทียมที่ยังไม่โต
มาแกงส้ม ส่วนผลเทียมที่โตเต็มที่
จะนำมาจิ้ม
เกลือเป็นของกินเล่น ส่วนผลเทียมที่สุกจะนำไปหมักเป็นไวน์หรือใช้ทำน้ำส้มสายชู
ก็ได้
ผลเทียมของมะม่วงหิมพานต์นี้มีส่วนประกอยของแทนนินมาก
จึงเน่าเสียเร็ว
ในส่วน
เมล็ดมะม่วงหิมพานต์(หรือ
ผลแท้)นั้น นับเป็นส่วนประกอบอาหารที่หลากหลายชนิด
เช่น
นำมาบดให้ป่น ทำเป็นเนยมะม่วงหิมพานต์
สำหรับใช้ทาขนมปังแบบเดียวกับเนยถั่ว
หรือ
ทำเป็นอาหารขบเคี้ยวชนิดต่างๆ
ส่วนของเหลวที่มีอยู่ในเปลือกหุ้มเมล็ดซึ่งประกอบด้วย
ยางฟีโนลิก(Caustic phenolic resin) และน้ำมัน Urushiol
มีคุณสมบัติไฮโดรโฟบิกเข้ม
ข้น
จึงมีประโยชน์หลายประการในด้านอุตสาหกรรม เช่น
ใช้ทำเป็นวัสดุหุ้มเบรก, ใช้ใน
การเคลือบอีพอกซีสำหรับตลาดผลิตภัณฑ์ปูพื้น และอื่นๆ
(ในเขตชนบทภาคใต้
นิยมนำเมล็ดหรือผลแท้ของมะม่วงหิมพานต์มาคั่วในกระบะ
หรือใน
ภาชนะเก่าๆ ให้ไฟเผาไหม้น้ำมันที่หุ้มเปลือกให้หมด
แล้วกระเทาะเอาเมล็ดข้างในที่สุก
หอมได้ที่ ถือเป็นอาหารขบเคี้ยวที่มีรสชาติดี
เด็กๆชอบ)
หมายเหตุ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
มะม่วงหิมพานต์
ในเวบไซท์อื่นๆ
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และขั้นตอนการผลิต
/
การปลูกมะม่วงหิมพานต์
มะระขี้นก
ภาพโดย :
คนโบราณ (a_Rsw
)
สถานที่ : ทุ่งปลักเหม็ด
(ซอยทวดพรหม สนามบินหาดใหญ่)
ผลมะระขี้นก
( ภาพจาก
Internet )
ชื่อวิทยาศาสตร์
Momordica charantia
Linn. ชื่อวงศ์
CUCURBTACEAE
ชื่ออื่น ผักไห่(กลาง), ผักไซ่ (อีสาน), ผักไห, ผักเหย(ใต้ ),
หมากห่อย, บ่ะห่อย (เหนือ)
มะระขี้นก
เป็นไม้เถาอายุสั้นเพียง
1 ปี
ลำต้น(เถา)มีมือเกาะเลื้อยพาดพันตามต้นไม้อื่น
ลำต้น(เถา)สีเขียวขนาดเล็กมี
5 เหลี่ยม
มีขนเล็กๆขึ้นประปราย ใบ
เป็นใบเดี่ยวออกเรียง
สลับกัน กว้าง 4.5-11.5
ซม. ยาว
3.5-10 ซม.ลักษณะใบหยักเว้าลึกเข้าไปในตัวใบ
5-6
หยักปลายใบแหลม
ใบมีสีเขียวอ่อนและมีขนอ่อนนุ่มปกคลุมเล็กน้อย
ดอกเป็นดอกเดี่ยว
สีเหลืองออกบริเวณง่ามใบ ดอกจะแยกเพศกันแต่อยู่บนต้นเดียวกัน ดอกตัวผู้มีกลีบเลี้ยง
ห่อหุ้มเอาไว้
กลีบดอกรูปขอบขนานหรือรูปไข่หรือพบทั้งสองแบบ
ผล
มะระขี้นกมีรูปร่าง
คล้ายกระสวย ผิวขรุขระ เส้นผ่าศูนย์กลาง 2-3.5
ซม. ยาว
5-8 ซม. ลักษณะคล้ายมะระ
จีน แต่มีขนาดเล็กกว่า เมื่อเล็กผลสีเขียว
แก่จัดจะเปลี่ยนเป็นสีส้ม หรือแดงอมส้ม เมล็ด
รูปไข่ตลับ ทุกส่วนของมะระขี้นก
ที่อยู่เหนือดิน จะมีรสขม
ส่วนที่ใช้ประโยชน์
ยอดอ่อน ใบอ่อน
และผลอ่อน ใช้ต้มหรือลวก รับประทานกับน้ำพริกช่วยให้เจริญอาหาร
ประโยชน์ทางยา
-
ตำรายาไทย ระบุว่า ผักไห่เป็นยาเจริญอาหาร ระบาย แก้โรคลม
เข้าข้อ หัวเข่าบวม
เป็นยาบำรุงน้ำดี แก้โรคของม้าม โรคตับ เป็นยาขับพยาธิในท้อง
ส่วน
น้ำต้มของใบผักไห่มีสรรพคุณระบายอ่อนๆ น้ำต้มของผลใช้แก้ไข้
น้ำคั้นของผลใช้แก้ปาก
เปื่อย ปากเป็นขุย บำรุงระดูใช้ขับพิษ ผลช่วยฟอกเลือด
บำรุงตับ มีผลดีต่อสายตา และผิว
หนัง
ใช้ในการรักษาโรคเบาหวานลดน้ำตาลในเลือด
เมล็ดมีสารลดน้ำตาลเช่นกัน
แต่
การใช้เมล็ดเป็นยา อาจก่อให้เกิดการแท้งด้วย
หมายเหตุ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
มะระขี้นก(ผักไห่)
ในเวบไซท์อืนๆ
มะระขี้นก
(เวบไซท์หมอชาวบ้าน)
/
ประโยชน์ของมะระขี้นก
|