เนระพูสีไทย
ภาพโดย :
คนโบราณ (a_Rsw
)
สถานที่ : ทุ่งปลักเหม็ด
(ซอยทวดพรหม สนามบินหาดใหญ่)
ชื่อวิทยาศาสตร์
Tacca chantrieri
Andre
วงศ์
TACCACEAE
ชื่อภาษาอังกฤษ
Bat flower
ชื่ออื่น -
ว่านนางครวญ(ใต้), ว่านค้างคาวดำ,เนระพูสีไทย(กลาง), เนียมฤาษี(เชียงใหม่),
ดีงูหว้า(เหนือ),
ว่านหัวฬา(จันทบุรี), ว่านพังพอน (ยะลา), ละเบ๊าะบูเก๊ะ (มลายู),
ม้าถอนหลัก(ชุมพร), ดีปลาช่อน(ตราด)
เนระพูสีไทย
เป็นไม้ล้มลุกมีเหง้าเจริญตามแนวราบใต้ดิน ชอบขึ้นในที่ชื้น
ระบายน้ำได้ดี
และมีแดดรำไร โดยธรรมชาติจะพบในป่าดงดิบชื้น ในระดับความสูง
500-1500 เมตร
ใบ
ใบรูปหอกแกมรูปไข่
ขอบใบเรียบปลายเรียวแหลม กว้างประมาณ
10
ซม. ยาวประมาณ
40 ซม.
โคนใบมน หรือเฉียง แผ่นใบสีเขียวเข้มกว่าท้องใบ
ก้านใบสีเขียวคล้ำชูขึ้นสูง
ดอก ออกดอกปลายฝน
ดอกของเนระพูสีไทยมีสีม่วงดำ
ก้านดอกชูขึ้นมาสูงจากกลางกอ
ช่อดอกเป็นแบบช่อกระจุกดอกออกแน่นล้อมรอบด้วยใบประดับรูปไข่
2
ใบ ตรงกลางดอก
มีเกสรตัวผู้และตัวเมียสีดำสนิท มีกลีบดอก 2
กลีบ
ลักษณะรีรูปทรงกลม รังไข่ใต้วงกลีบ
ดอกด้านใน จะเป็นเส้นยาวคล้ายด้าย
ยื่นห้อยลงมา เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว ดอกของ
เนระพูสีไทย
จะมีลักษณะคล้ายค้างคาวกำลังกางปีก ( จึงได้ชื่อว่า
ว่านค้างคาวดำ)
วิธีขยายพันธุ์
เนระพูสีไทย
สามารถขยายพันธุ์ได้ง่ายด้วยวิธีแยกหน่อหรือจะใช้วิธีปลูกด้วยเมล็ดก็ได้
แต่ค่อนข้างจะช้ากว่าวิธีแยกหน่อ
ส่วนที่ใช้ประโยชน์
เหง้า ใช้ต้มหรือดองสุรา
ดื่มแก้โรคความดันเลือดต่ำ บำรุงกำลังทางเพศ
บำรุงกำลังสตรี
ระหว่างตั้งครรภ์
ทั้งต้น
ต้มอาบแก้เม็ดผื่นคันตามร่างกาย
น้ำข้าว
ภาพ
# 1 โดย : คนโบราณ (a_Rsw
)
สถานที่ : ทุ่งปลักเหม็ด
ภาพ
#2
จากเวบ
บ้านสวนพอเพียง
ภาพ
#3
จากเวบ
พันทิพย์
ชื่อวิทยาศาสตร์ Glycosmis
pentaphylla
(Retz.) DC.
ชื่อวงศ์
RUTACEAE
ชื่อภาษาอังกฤษ
Ash sheora,
Orangeberry, Rum Berry, Gin Berry
ชื่ออื่น กระรอกน้ำ (ชลบุรี), กระรอกน้ำข้าว,กระโรกน้ำข้าว (กลาง), เขนทะ
(เหนือ),
น้ำข้าว (กลาง,
ใต้), ส้มชื่น (กลาง,เหนือ),
ตาระแป (มลายู),
ลูกเขยตาย (ชื่อในตำรับยา )
น้ำข้าว
เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก(สูงได้ถึง
5
เมตร) ใบ
เป็นใบประกอบแบบขนนก
เรียงสลับ
ปลายคี่
5-7
ใบ ก้านใบ
2-10
มม. ใบย่อยขนาด 3-7
×
10-25 ซม.
ดอก ดอกสีขาวมี
กลิ่นหอม ออกเป็นช่อตามง่ามใบ ผล
ผลกลมโตขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ
8-10
มม.
ผลสุกสีแดงอมชมพู มีรสหวานน้อยๆ รับประทานได้
มีขึ้นตามป่าราบและที่รกร้างทั่ว
ไป
น้ำข้าว พบกระจายพันธุ์ ตั้งแต่ เนปาล,
ภูฐาน, อัสสัม, พม่า, ยูนนานตอนใต้, ไทย,
ลาว, เวียตนาม, ศรีลังกา,
และฟิลลิปปินส์
ส่วนที่ใช้ประโบชน์
ราก
มีรสขื่นปร่า ใช้เป็นยากระทุ้งพิษ แก้ไข้รากสาด แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย
แก้พิษงู
ดอกและผล ใช้รักษาหิด
เปลือกและเนื้อไม้ แก้ฝีภายในและภายนอก ขับน้ำนม
หมายเหตู
พืชในกลุ่ม
Glycosmis นี้ นอกจากต้นน้ำข้าว
หรือ ลูกเขยตาย(Glycosmis
pentaphylla
(Retz.) DC.)
แล้ว ยังมีพันธุ์ไม้อีกชนิดเรียกว่า
ลูกเขยตายแม่ยายชักปรก
Glycosmis cochinchinensi Pierre.) ซึ่งมีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เหมือนกันทุกอย่าง
ต่างกันเฉพาะใบ ที่
ลูกเขยตายแม่ยายชักปรก(Glycosmis
cochinchinensi Pierre.) จะ
มีใบ เป็นใบเดี่ยวรูปหอก
ปลายและโคนแหลม (ทั้ง
2 ชนิด
มีสรรพคุณทางสมุนไพรใกล้
เคียง ใช้แทนกันได้)
ตัวอย่างภาพต่อไปนี้
ภาพจากเวบ
พันทิพย์
ข้อมูลเพิ่มเติม
:
ข้อมูลทางพฤกษศาสตร์และสรรพคุณสมุนไพร
เวบทองไทยแลนด์,
เวบ
GlobinMed,
เวบพันทิพย์,
เวบ Citrus Pages
ใบระบาด
ชื่อวิทยาศาสตร์
Argyreia nervosa (Burm.f.) Bojer.
ชื่อวงศ์
CONVOLVULACEAE
ชื่อภาษาอังกฤษ
Elephant creeper, Hawaiian Baby Woodrose
ชื่ออื่น
ผักระบาด, เมืองมอน
ใบระบาด
เป็นไม้เถาเกี่ยวพันต้นไม้อื่นยาวได้ถึง10
เมตร
ลำต้นและกิ่งก้านมีขนนุ่ม มียาง
เหนียวสีขาว ใบ ใบเดี่ยวออกสลับ รูปหัวใจ กว้าง 9 - 25 ซม.
ยาว 11 - 30 ซม.
ปลาย
แหลมโคนเว้า ด้านล่างมีขนอ่อนนุ่มคล้ายเส้นไหม สีเทาเงิน
ดอก ดอกออกชิดกัน เป็นช่อ
ตามซอกกิ่ง
กลีบเลี้ยงมี 5 กลีบขนาดไม่เท่ากัน กลีบดอกใหญ่สีม่วงแกมชมพู เชื่อมติดกัน
เป็นรูปกรวยยาวประมาณ 6 ซม. ปลายแผ่ออกและหยักเป็นแฉกตื้นๆ เมื่อดอกบานเส้นผ่า
ศูนย์กลางประมาณ 6 ซม.เกสรตัวผู้ 5 อัน
ผล ผลกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ซม.
ปลายมีติ่ง
ส่วนที่ใช้ประโยชน์
ใบระบาด
มีดอกและใบสวยงาม
ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับตกแต่งสวน
ใบ เป็นสมุนไพร ใช้ในการบ่มเร่งหนองฝี
รักษาแผล ดูดหนองฝี ปิดแผล
เป็นยาพอกแผล
ลดการอักเสบของแผล และใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนัง
ราก
ฝนกับข้าวสาร ใช้พอกข้อที่ปวดบวม เนื่องจากเป็นโรคไขข้ออักเสบ ช่วยลดอาการ
อักเสบบวมได้ นอกจากนี้ ตามตำราอายุรเวท ยังระบุว่ารากของใบระบาด
ใช้เป็นยาขับน้ำ
เหลืองเสีย และนำไปปรุงยาร่วมกับสมุนไพรอื่นๆ เป็นยาบำรุง
ยาอายุวัฒนะ
อย่างไรก็ตาม การใช้ใบระบาดเป็นยาสมุนไพร
โดยเฉพาะเป็นยาภายใน (ยารับประทาน)
อาจเกิดผลข้างเคียง ที่ต้องระวัง
คือ อาจเกิดอาการคลื่นใส้ อาการประสาทหลอน
เหงื่อออก และความดันโลหิตสูง
ข้อมูลเพิ่มเติม
:
ข้อมูลทางพฤกษศาสตร์
the-than.com
ข้อมูลสรรพคุณสมุนไพร
rVita - Personalized Natural Healing
|